
ที่มาและความสำคัญของหลักสูตร
ความปลอดภัยในชุมชนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนและการพัฒนาสังคมโดยรวม ชุมชนที่ปลอดภัยไม่ได้หมายถึงเพียงการลดปัญหาอาชญากรรม แต่ยังครอบคลุมถึงการป้องกันอุบัติเหตุและการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆการรักษาความปลอดภัยในชุมชนมีรากฐานจากความต้องการในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ปัจจัยที่กระตุ้นให้ความปลอดภัยในชุมชนเป็นสิ่งจำเป็น ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของอัตราอาชญากรรม การเติบโตของเมือง และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่มั่นคงและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในชุมชน ชุมชนที่ปลอดภัยช่วยสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การเดินทาง การทำงาน และการทำกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะ นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี ลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับความไม่ปลอดภัย เช่น ค่าเสียหายหรือค่ารักษาพยาบาล พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและการลงทุนในพื้นที่ความปลอดภัยยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความสามัคคีในชุมชน เนื่องจากผู้คนสามารถทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามต่าง ๆ เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิด การจัดกิจกรรมอบรมด้านความปลอดภัย หรือการใช้เทคโนโลยีในการแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน ความปลอดภัยในชุมชนเป็นรากฐานที่สำคัญในการสร้างสังคมที่มั่นคงและยั่งยืน เมื่อประชาชนรู้สึกปลอดภัย พวกเขาสามารถพัฒนาตนเองและร่วมมือกันสร้างชุมชนที่น่าอยู่อย่างแท้จริง การส่งเสริมความปลอดภัยในชุมชนจึงเป็นหน้าที่ร่วมกันของทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานท้องถิ่น องค์กร และประชาชน เพื่อสร้างอนาคตที่ดีสำหรับทุกคนในสังคม การพัฒนาสมรรถนะของผู้นำความปลอดภัยในชุมชนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างชุมชนที่มั่นคงและน่าอยู่ ผู้นำที่มีสมรรถนะที่ดีสามารถทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงและนำพาชุมชนไปสู่เป้าหมายของความปลอดภัยที่ยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นและความร่วมมือจากทุกฝ่ายในสังคม
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
- เพื่อเพิ่มความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการป้องกันและจัดการความปลอดภัย
- เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการวางแผนและบริหารจัดการ
- เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อสร้างชุมชนที่ปลอดภัยและยั่งยืน
ผลลัพธ์การเรียนรู้
- ด้านความรู้ (Knowledge)
1.1 ผู้เรียนสามารถปฏิบัติโดยปรับใช้ความรู้ในการสร้างความปลอดภัยในชุมชน
1.2 ผู้เรียนสามารถปฏิบัติโดยปรับใช้ความเข้าใจในการสร้างความปลอดภัยในชุมชน - ด้านทักษะ (Skills)
2.1 ผู้เรียนมีทักษะการวางแผนและบริหารจัดการปัญหาความไม่ปลอดภัยในชุมชนได้
2.2 ผู้เรียนมีทักษะการแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยในชุมชนได้ - ด้านจริยธรรม (Ethics)
3.1 ผู้เรียนมีความเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยที่สร้างแรงบันดาลใจได้
3.2 ความตระหนักรู้ในบทบาทและความรับผิดชอบในชุมชน - ด้านลักษณะบุคคล (Character)
4.1 ผู้เรียนมีลักษณะการสื่อสารและการทำงานร่วมกับคนอื่นในชุมชนได้
4.2 ผู้เรียนมีลักษณะช่างสังเกตความไม่ปลอดภัยในชุมชน
กลุ่มเป้าหมาย
1) ผู้เรียนกำลังศึกษา หรือ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า
2) นิสิต/นักศึกษา
3) ผู้ที่ทำงานแล้วและต้องการเพิ่มพูนสมรรถนะ Upskill/Reskill
4) แรงงานในระบบที่มีคุณค่าในปัจจุบันแต่ต้องการ Upskill/Reskill
5) ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบ
6) ผู้สูงอายุ
7) วัยรุ่นและวัยแรงงานในชุมชน
คุณสมบัติของผู้เข้าอบรม
สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) หรือเทียบเท่าในสายวิทยาศาสตร์- คณิตศาสตร์ หรือมีแผนการเรียนในกลุ่มสาระทางวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต และคณิตศาสตร์จำนวนไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต หรือกำลังศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
จำนวนผู้เข้าอบรมต่อรุ่น
- จำนวนนักศึกษาต่อรุ่น 40 คน จำนวน 2 รุ่นต่อปี
- ระยะเวลาในการจัดการศึกษา (ช่วงเวลาเริ่มต้นจนจบหลักสูตร) เดือนเมษายน ถึง พฤศจิกายน 2567
- 7.3 จำนวนชั่วโมงในการดำเนินการ 40 ชั่วโมง (ทฤษฎี 18 ชั่วโมง , ปฏิบัติ 22 ชั่วโมง )
- ระยะเวลาตลอดหลักสูตร 8 วัน หรือ 4 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน(วัน/สัปดาห์/เดือน)
ผู้ประสานงาน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยกฤต ยกพลชนชัย โทร. 085-498-5952